ช่วงการเพาะปลูก
สนับสนุนเงินทุนช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
* ไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่
* เริ่มจ่ายเงินปลายเดือน ก.ย. – 31 ต.ค. 59 (ภาคใต้ไม่เกิน 31 ธ.ค. 59)
* ต้องเป็นเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 (และต้องเป็นเกษตรกรตามทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใน 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา)
ธ.ก.ส. จ่ายดอกเบี้ยให้เกษตรกรที่กู้เงินที่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูกและลดต้นทุนการผลิต
* ลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี
* เงินต้นไม่เกินรายละ 80,000 บาท
* เป็นสัญญาเงินกู้ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 59 (ภาคใต้ไม่เกิน 31 มี.ค. 60)
* ระยะเวลาลดดอกเบี้ยเงินกู้ตั้งแต่ 1 เม.ย. 59 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระคืนเสร็จ แต่ต้องไม่เกิน 6 เดือน
ลดต้นทุนการผลิตด้วยการปรับลดราคาปัจจัยการผลิต
* ค่าปุ๋ยเคมี ปรับลดลง 10 – 30 บาท/กระสอบ
* ค่ายาปราบศัตรูพืชปรับลดลง 6 – 115 บาท/ขวด (ตามขนาดขวดที่กำหนด)
* ค่าเมล็ดพันธุ์ปรับลดลง 1 บาท/กก.
* ค่าเช่าที่นาปรับลดลง 200/ไร่
หมายเหตุ – ปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชปรับลดราคาในช่วง 1 พ.ค. – 31 ธ.ค. 59
สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี เพื่อให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพ
* เกษตรกรในแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ 23 จังหวัด จำนวน 64,000 ครัวเรือน (ในเขตภาคเหนือ 3 จังหวัด ภาคอีสาน 20 จังหวัด)
* ให้เมล็ดพันธุ์ไม่เกิน 125 กก./ครัวเรือน พื้นที่ปลูกไม่น้อยกว่า 10 ไร่
* มีการให้คำแนะนำและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวในช่วงเดือน มิ.ย. – พ.ย. 59
สนับสนุนเงินทุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกข้าวแบบแปลงใหญ่
* วงเงินกู้กลุ่มละไม่เกิน 5,000,000 บาท
* ดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี
* ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ ตั้งแต่ 1 มิ.ย. – 31 ต.ค. 59 (ภาคใต้ 3 มิ.ย. – 28 ก.พ. 60)
* ระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 12 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับเงินกู้
ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด
จัดหารถเกี่ยวให้เกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาจำนวนมาก
* ทำให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ได้ผลผลิตมีคุณภาพ ขายได้ราคาดี
* ในช่วงที่ข้าวออกมามากในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. 59
ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนในการเก็บสต็อคช่วงที่ผลผลิตออำมาจำนวนมาก
* ชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี
* ระยะเวลาชดเชยดอกเบี้ย 60 – 180 วัน นับจากวันที่รับซื้อ
* รับสมัครถึงวันที่ 23 ก.ย. 59
* รับซื้อเก็บสต็อค 1 พ.ย. 59 – 31 มี.ค. 60 (ภาคใต้ 1 ก.พ. – 31 พ.ค. 60)
จัดตลาดนัดข้าวเปลือกให้เกษตรกรมีทางเลือก จะขายกับใครก็ได้ที่ให้ราคาเหมาะสม
* มีเจ้าหน้าที่รัฐคอยช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมในการขาย
* ดูแลเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้นที่ได้มาตรฐาน
* ดูแลการตรวจสิ่งเจือปน
* ระยะเวลา 1 ต.ค. 59 – 30 ก.ย. 60 (โดยจังหวัดเป็นผู้กำหนดช่วงระยะเวลาการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก)
สินเชื่อให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวหรือแปรรูปเพื่อจำหน่ายในราคาสูงขึ้น
* ให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรับซื้อ แปรสภาพ
* ดอกเบี้ยร้อยละ 4 (รัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สถาบันเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1)
* ระยะเวลาเบิกเงินกู้ 1 ต.ค. 59 – 30 มิ.ย. 60
* ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันรับเงินกู้ (ไม่เกิน 30 ก.ย. 60)
สินเชื่อให้เกษตรกรในการเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉาง ราคาดีเมื่อไหร่แล้วค่อยขาย
* ข้าวเปลือกความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ 2
* ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวตันละ 11,700 บาท
* ได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท
* ระยะเวลาคืนเงินไม่เกิน 5 เดือน (นับถัดจากเดือนที่รับเงินกู้)
* เริ่ม 1 พ.ย. 59 – 28 ก.พ. 60
ช่วงฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนอาชีพทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พักชำระหนี้เงินต้นและลดดอกเบี้ยให้เกษตรกร เพื่อฟื้นฟูตนเองและมีเงินใช้จ่ายในครัวเรือน
* เกษตรกรรายย่อยที่มีหนี้เงินกู้กับ ธ.ก.ส. ก่อน 1 มิ.ย. 59 ไม่เกิน 500,000 บาท
* เลื่อนกำหนดชำระหนี้เงินต้นให้ 2 ปี (ตั้งแต่ 1 ก.ค. 59 – 30 มิ.ย. 61)
* ลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี (ตั้งแต่ 1 ก.ค. 59 – 30 มิ.ย. 61)
สนับสนุนความรู้ให้เกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนการผลิตตามความต้องการของตลาด
* อบรมให้ความรู้เกษตรกร จำนวน 300,000 ราย แบ่งเป็น 2 รอบ
- รอบที่ 1 “รู้กระแสเงินสด อนาคตมั่นคง” ให้ความรู้ด้านการเงินโดยชี้หลักเศรษฐกิจพอเพียง (เริ่ม 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 59)
- รอบที่ 2 “ปรับเปลี่ยนการผลิต สู่ชีวิตที่ยั่งยืน” การอบรมเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนการผลิตตามความต้องการของตลาด (เริ่ม 1 มิ.ย. – 31 ธ.ค. 60)
สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชทดแทนที่ใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวในฤดูนาปรัง
* เกษตรกร 22 จังหวัด ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
* ให้ความรู้และช่วยหาตลาด
* ให้ค่าใช้จ่ายไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่
* ทำให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงที่ลดรอบการปลูกข้าวฤดูนาปรัง
* ระยะเวลาดำเนินการ 1 มิ.ย. 59 – 30 เม.ย. 60
สนับสนุนให้เกษตรกรที่พื้นที่ไม่เหมาะในการปลูกข้าวเปลี่ยนไปเลี้ยงสัตว์หรือปลูกพืชอื่น
* ปรับเปลี่ยนอาชีพไปเลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โคเนื้อ แพะ ไก่ ปลา ฯลฯ
* ปลูกพืชอื่นหรือพืชทางเลือก เช่น นาหญ้า พืชตระกูลถั่ว มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ลำไย มะพร้าว ทุเรียน เงาะ มังคุด ฯลฯ
* ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี (รัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี กลุ่มเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 2 ต่อปี)
* ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 6 ปี (ตั้งแต่ 1 ส.ค. 59 – 30 ก.ย. 65)